
เมื่อก่อนเคยชมว่า ใส่ชุดนั้นสวย ใส่ชุดนี้น่ารัก แต่ตอนนี้ กลับแสดงท่าทีเฉยๆ
แต่งหน้าสวย ก็ไม่ชม แถมบ่นว่า ต้องรอนาน ตอนออกไปช้อปปิ้ง ก็ทำหน้าเฉยชา
ถามอะไรก็ไม่มีความเห็น อาการแบบนี้ เป็นใครก็น้อยใจทั้งนั้น
6 เถียงกันน้อยลง
ไม่เพียงในแง่ของการสนทนาเท่านั้น ถ้ารู้สึกว่า สามี มีข้อโต้แย้งน้อยลง
ได้ยินแต่คำว่า “แล้วแต่” คุณอาจจะต้องเริ่มกังวลบ้างแล้วล่ะ เพราะมันอาจจะ
เป็นสัญญานของการดื้อเงียบ อันเนื่องมาจาก เขาเริ่มไม่มีความสุข
กับความสัมพันธ์ ที่เป็นอยู่นี้ ในขณะที่คุณอาจคิดว่า มันเป็นเรื่องทีดี
ที่สามีไม่มาโต้เถียงทะเลาะด้วย ตามใจตลอด แต่จริงๆแล้วนั่น
อาจหมายความว่า เขาไม่ได้สนใจคุณเหมือนเคยก็ได้
5 เมื่อสองคนกลายเป็นลำพัง
จำได้ไหมว่า ตอนจีบกันตอนแต่งงานใหม่ๆ เคยออกไปซื้อของ
จ่ายตลาดด้วยกัน ทุกสุดสัปดาห์ จำได้ไหมว่า เราไปส่งลูก
ที่โรงเรียนด้วยกันทุกวัน? มันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าสามีคุณ
เริ่มมีธุระบ่อยๆ และปฏิเสธที่จะไปไหนด้วยกัน ถ้าเป็นแบบนี้
คุณควรเริ่มเปิดใจ พูดคุยกันได้แล้ว เพื่อที่ความสัมพันธ์
จะได้ไปแย่ไปกว่านี้
4 เมื่อบ้านกลายเป็นโรงแรม
จากที่เคยเข้างาน 9 โมงเช้า เลิก 6 โมงเย็น กลายเป็น
ต้องอยู่ทำโอทีดึกๆดื่นๆ กลับบ้าน 4 ทุ่มแทบจะทุกคืน
แถมเสาร์–อาทิตย์ ก็ยังต้องออกไปทำงานอีกและ
แม้ว่าเวลาที่มีส่วนใหญ่ จะหมดไปกับเรื่องงาน
แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้เลื่อนขั้น หรือเงิ นเดือนขึ้นเลย
เมื่อสามีกลับบ้าน ก็รีบอาบน้ำ เข้านอน ทำแต่งานการบ้านไม่ทำ
ปิดไฟนอนหันหลัง ผ้าไม่ซัก บ้านไม่เก็บ และเมื่อเขาพย าย าม
ที่จะใช้เวลาอยู่บ้าน ให้น้อยที่สุด กลับบ้านดึกทุกวัน
ซึ่งทุกครั้งข้ออ้าง ที่คุณภรรย ามักจะได้ฟังอยู่บ่อยๆ ก็คงหนีไม่พ้น 3
เรื่องเลี้ยงส่งบ้าง วันเกิดบ้าง เลี้ยงได้เลี้ยงดี เลี้ยงกันทุกวี่วัน
สุดท้ายข้ออ้าง ที่จะได้ยินก็หนีไม่พ้น เพื่อเ งินโบนัส สำหรับอนาคตของครอบครัว
แต่เมื่อไหร่ก็ตาม ที่เขารู้สึกว่า กลับบ้านมาแล้วรู้สึกเบื่อหน่าย
ไม่รู้สึกว่าอย ากรีบ กลับบ้านเร็วๆ นั่นก็อาจเป็นสัญญาณ แสดง
ให้เห็นว่าความสัมพันธ์ค่อยๆจืดจางลงแล้วก็เป็นไปได้
3 ทุกครั้งที่คุยไม่รู้สึกดีเหมือนเคย
ทุกครั้งที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน จากที่เคยโทรหา ก็เริ่มไม่ค่อยสนใจ
แถมไม่ค่อยจะรับสาย อ้างว่างานเยอะ ยุ่งอยู่บ้าง ปิดเสียงไว้
ไม่ได้ยินบ้าง แม้กระทั่งตอนที่คุยกัน จากที่เคยเล่า เคยถามไถ่
กลับกลายเป็นความเงียบ อารมณ์ไม่มีอะไรจะคุย ไม่รู้จะคุยอะไร
ก็เกิดขึ้นแบบ ที่คุณก็รู้สึกได้คำพูดที่ว่า “มีอะไรไว้คุยกันที่บ้านนะ”
ออกจากปากของคุณสามีอยู่บ่อยครั้ง เมื่อคนสองคน เริ่มพูดกันน้อยลง
อีกไม่นานความสัมพันธ์อันง่อนแง่นก็จะตามมา
2 เกิดสังคมก้มหน้าขึ้นในบ้าน
แม้ว่าเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า จะทำให้การติดต่อสื่อสาร ดูง่ายขึ้น
แต่เรากลับรู้สึกเหมือนถูก ตัดขาดจากคนใกล้ตัว เมื่อสามีเอาแต่ก้มหน้า
เล่นมือถือ มีเวลาว่างเมื่อไหร่ ก็หยิบแท็ปเล็ต ออกมาเล่น ไม่สนใจลูกเมีย
คุยได้ กดไลก์ได้ ทุกคนยกเว้นคนในบ้านนั่นก็เป็นอีก สัญญาณที่อาจ
แสดงถึงอาการหมดรักของสามีก็เป็นได้
1 เมื่อเซ็ ก ส์จืดจาง
นี่อาจเป็นหนึ่งในสัญญาณ ที่ชัดเจนที่สุด ว่าชีวิตการแต่งงานของคุณ
กำลังมีปัญหา หากพวกคุณ ใช้เวลาที่สมควร จะมีความสุข
แต่กลับล้มเหลวไม่เป็นท่า หรือแม้แต่การปฏิเสธ ที่จะมีเซ็ ก ส์
เหนื่อยบ้าง ไม่มีอารมณ์บ้าง นั่นก็คงถึงเวลา ที่คุณควรเริ่มกังวลได้แล้ว
ถ้าสามีของคุณเป็นแบบนี้ แล้วละก็จำเป็นอย่างมาก ที่คุณต้องเริ่มพูดคุย
และปรับเปลี่ยนพฤติกรร มก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป การแต่งงาน
ไม่ใช่การผูกมัด เพราะชีวิตคู่ คือการอยู่ด้วยกัน เรียนรู้ซึ่งกันและกัน
หากคุณมีสามีหรือคนรักที่ดี แต่คุณไม่สามารถเข้าใจ และเป็นที่พักใจ
ให้แก่เขาได้ สุดท้ายความรักก็จะจืดจางไป ไม่ว่าคุณจะสวยขนาดไหนก็ตาม
ดังนั้นอย่าลืมที่จะใส่ใจ สนใจ พูดคุยและปรับเปลี่ยน ก่อนที่จะเจอกับอาการหมดรัก ของสามีนะครับ