Home ข้อคิด 5 เหตุผลที่ทำไมพ่อแม่ยุคใหม่ ไม่สอนให้ลูกต้องเรียนเก่งอ ย่ างเดียว

5 เหตุผลที่ทำไมพ่อแม่ยุคใหม่ ไม่สอนให้ลูกต้องเรียนเก่งอ ย่ างเดียว

พ่อแม่ทุกคน ก็หวังเล็กๆว่าลูกของเรานั้น จะต้องเป็นเด็กที่สมบูรณ์

และเพรียบพร้อมในทุกๆสิ่ง ทั้งสุขภาพร่างกายจิตใจ รวมไปถึงการเรียน

ซึ่งถ้าพูดถึงการเรียน เชื่อเลยว่าคุณพ่อคุณแม่ ทุกคนก็หวังมากๆ

ที่จะให้เขากลายเป็นเด็กที่เรียนเก่ง และประสบความสำเร็จ ด้านการเรียนกว่าใครๆ

เพราะด้วยความเชื่อที่ว่า เด็กที่เรียนเก่ง มักจะประสบความสำเร็จ

ในหลายๆด้าน แถมยังเป็นหน้าเป็นตา ให้กับพ่อแม่อย่างเราๆอีกด้วย

เป็นเรื่องธรรมดานะคะ ที่พ่อแม่ทุกคนล้วน อย ากที่จะให้ลูกของเรานั้นเรียนเก่ง

เราก็จะเห็นได้ว่านอกจากการเรียน ในห้องเรียนที่เยอะซะ

จนเด็กๆเครียดแล้วก็ยังต้องไปเรียนพิเศษกันต่ออีก

เพื่อเสริมความฉลาดของลูก เพื่อให้เขาประสบความสำเร็จ

และเป็นหน้าเป็นตาแก่พ่อแม่ ซึ่งการเรียนหนักๆ

มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียนะคะ เด็กๆที่เรียนอย่างเดียว

เรียนมันกันตั้งแต่อนุบาลเนี่ย ทำให้เด็กๆเสียโอกาสหลายๆอย่างเลยนะคะ

เพราะสิ่งที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต นอกจากการเรียนแล้วก็ยังมีเรื่องอื่นๆ

ที่เด็กๆต้องเรียนรู้อีก ทำให้เด็กๆขาดทักษะชีวิต ที่จะได้เรียนรู้

เพื่อให้อยู่รอดในสังคมาอีกด้วย ทำให้พ่อแม่

บางคนก็อาจจะกลับมาคิด นะคะว่าหรือเราควรที่สอนให้เขา

รู้จักเอาตัวรอด มากกว่าซึ่งปัจจุบันโลก ก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

จนเกิดผลสำรวจว่า 84 เปอร์เซนของพ่อแม่ยุคนี้ อย ากให้ลูกมีพัฒนาการ

และความพร้อมรอบด้าน ทั้งทางร่างกายจิตใจอารมณ์ และสังคมมากกว่าพัฒนาทางด้านสมองดีขึ้น

เป็นอัจฉริยะเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ก็ยังมีผลสำรวจ จากคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ที่ว่า 5 อันดับ

เหตุผลทำไมแค่อัจฉริยะ อย่างเดียวไม่พอสำหรับเด็กยุคนี้ซึ่งได้แก่

อันดับที่ 1 อย ากให้ลูกเข้าสังคม และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้

อันดับที่2 พ่อแม่อย ากให้ลูกดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข

อันดับที่3 พ่อแม่อย ากให้ลูกเรียนรู้ ฝึกฝนในทุกๆด้าน

อันดับที่4 อย ากให้ลูกมีภูมิคุ้มกัน ปรับตัวเก่ง

และยอมรัสบความผิดหวังได้

อันดับที่ 5 อย ากให้ลูกสมบูรณ์ พร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจ

ซึ่งวันนี้เราก็มีเทคนิค สอนให้ลูกเอาตัวรอดมาฝากกัน

จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

1.สร้างรหัสลับระหว่างพ่อแม่ และลูก เวลาอยู่ห่างกัน

หรืออยู่ในสถานการณ์ที่ดูไม่ปลอดภัย ให้ส่งรหัสนี้

เมื่อต้องการเพื่อความเข้าใจ และเราจะได้ไปช่วยลูก

ให้ปลอดภัยให้เร็วที่สุด

2.ถ้าเป็นไปได้ อย่าให้ลูกติดข้อมูลส่วนตัวไว้บนข้าวของเครื่องใช้ เช่น

กระเป๋าสะพาย กิ๊บกล่องข้าว เพราะเมื่อคนแปลกหน้า รู้ชื่อจะทำให้เข้าถึงลูกได้ง่ายขึ้น

จนเด็กๆหลงเชื่อได้

3.หากรู้สึกว่า มีใครขับรถตามอยู่ให้วิ่งกลับไปในทิศทางตรงข้ามกับรถนั้น

4.หากพลัดหลงหรือรู้สึกว่า ไม่ปลอดภัยให้มองหาคุณพ่อคุณแม่

เพื่อขอความช่วยเหลือก่อนเป็นอันดับแรก

5.หากเกิดอะไรขึ้น เกี่ยวกับร่างกายต้องไม่เก็บเป็นความลับ

ให้รีบบอกพ่อแม่ทันที

6.ถ้ามีคนแปลกหน้าพย าย าม จะจับตัวให้ทิ้งความมีมารย าททั้งหมด

และพ ย า ย ามส่งสัญญาณ ขอความช่วยเหลือให้คนอื่นๆรับรู้

7.หากมีคนอื่นๆ ที่ร้องขอความช่วยเหลือ อย่าคิดว่าสถานการณ์นั้น

เป็นเรื่องเท็จหรรือจริงแค่ไหน เพราะมันอาจจะตรงข้ามกับสิ่งที่เราคิดไว้

ให้ลูกรู้จักตะโกนร้อง เพื่อบอกให้คนอื่นๆให้ช่วยเหลือได้ แต่ยังไงก็ตาม

เรื่องเอาตัวรอดหรือการเรียนเก่งนั้น จริงๆคุณพ่อคุณแม่ ก็สามารถทำให้เขา

ได้ควบคู่กันไปนะคะ ซึ่งการเรียนก็ไม่ใช่ว่าจะมีสิ่งแย่หรือไม่ดีกับลูก

แต่อยู่ที่ความพอดีต่างหาก ที่ควรจะมีเพราะคนไม่เก่ง ที่ประสบความสำเร็จ

ก็มีถมไป ไม่ควรคิดหรือเอาตัวอย่างคนที่เรียนไม่จบ หรือเรียนไม่เก่ง

มาเป็นข้ออ้างในการที่จะให้ลูกตั้งใจเรียนเลย ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการเรียนรู้

โอกาสและการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมมากกว่า ตอนนี้ก็แค่ขอให้เขาได้ลองเรียนรู้

ในสิ่งที่เขาอย ากทำดู และเราก็คอยให้กำลังใจ และสอนเขาในเส้นทางที่พอดี

และเหมาะสม เท่านี้เด็กๆก็จะกลายเป็นคนที่เรียนดี และอยู่รอดในสังคมได้

อย่างสบายๆแล้วล่ะค่ะ

ที่มา starfishlabzfahhsai

Load More Related Articles
Load More By admin01 admin01
Load More In ข้อคิด

Check Also

ออมเงินด้วย 6 วิธีนี้ มีเงินเก็บเพิ่มแน่นอน

1.เปลี่ยนค่าใช้จ่ายให้เป็นการออม หากเรามีการยกเลิกค่าใช้จ่ายบางอย่าง เช่น การเปลี่ยนโปรมือ…