
เจอนิทานดีๆอ่ านง่ายๆ ที่อ่า นแล้วสอนอะไรมากมาย เรื่องมีอยู่ว่า
เด็กหนุ่มคนหนึ่ง เป็นชาวสงขลา เรียนเก่งมาก ได้ทุนไปเรียนอเมริกา
ตั้งแต่เด็กจนจบด็อกเตอร์ จึงกลับมาเยี่ยมบ้าน บ้านของเด็กหนุ่มอยู่อีกฟากหนึ่ง
ขอทะเลสาบสงขลา ต้องนั่งเรือแจวข้ามไป
ใช้เวลาแจวประมาณหนึ่งชั่ วโมง..เรือที่ติดเครื่องยนต์ไม่มีเหรอลุง?
ไม่มีหรอกหลาน…ที่นี่มันบ้านนอก มันห่างไกลความเจริญ มีแต่เรือแจว
โอ…ล้าสมัยมากเลยนะลุงโบราณมาก
ที่อเมริกาเขาใช้เครื่องบินกันแล้วลุง…ลุงยังมานั่งแจวเรืออยู่อีก
ไปส่งผมฝั่งโน้นเอาเท่าไรลุง…?
80 บาท OK…ไปเลยลุง…
ในขณะที่ลุงแจวเรือ…หนุ่มนักเรียนนอก ก็เล่าเรื่องความทันสมัย
ความก้าวหน้า ความศิวิไลช์ของอเมริกาให้ลุงฟัง…
เมืองไทยเมื่อเทียบกับอเมริกาแล้วล้าสมัยมาก
ไม่รู้คนไทยอยู่กันได้ยังไง?ทำไมไม่พัฒนา ทำไมไม่ทำตามเขา
เลียนแบบเขาให้ทัน.?
ลุง…ลุงใช้คอมพิวเตอร์ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นไหม…?
ลุงไม่รู้หรอกใช้ไม่เป็น…โอโฮ้ลุงไม่รู้เรื่อง
นี้น่ะชีวิตลุงหายไปแล้ว 25% แล้วลุงรู้ไหมว่า เศรษฐกิจของโลกตอนนี้เป็นยังไง…?
ลุงไม่รู้หรอก…ลุงไม่รู้เรื่องนี้นะชีวิตของลุงหายไป 50% ลุง…
ลุงรู้เรื่องนโยบายการค้าโลกไหมลุง…?
ลุง…ลุงรู้เรื่องดาวเทียมไหมลุง…?
ลุงไม่รู้หรอกหลานเอ๊ย…ชีวิตของลุงลุงรู้อยู่อย่างเดียวว่า
จะทำยังไง…ถึงจะแจวเรือให้ถึงฝั่งโน้น…ถ้าลุงไม่รู้เรื่องนี้
ชีวิตของลุงหายไปแล้ว75%
พอดีช่วงนั้น…เกิดลมพายุพัดมาอย่างแรง คลื่นลูกใหญ่มาก
ท้องฟ้ามืดครึ้ม…นี่พ่อหนุ่ม..เรียนหนังสือมาเยอะจบด็อกเตอร์จากต่างประเทศ…
ลุงอย ากถามอะไรสักหน่อยได้ไหม? ได้จะถามอะไรหรือลุง? เอ็งว่ายน้ำเป็นไหม?
ไม่เป็นหรอกลุง…ชีวิตของเอ็งกำลังจะหายไป100% …แล้วพ่อหนุ่ม
อย่าคิดว่าตัวเราเหนือกว่าคนอื่น เพียงแค่มีการศึกษาสูง
ยังมีประสบการณ์ชีวิตที่ต้องศึกษาอีกมาก แม้จะไม่มีใบประกาศมอบให้
ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด สำนวนนี้หมายถึงคนที่มีวิชาความรู้ดี
หรือรู้สารพัดเกือบทุกอย่าง แต่ถึงคราวเกิดเรื่อง
มีปัญหาขึ้นกับตัวเอง กลับจนปัญญาแก้ไข
หรือมีความหมายอีกทางหนึ่งว่า.. มีความรู้อยู่มากมาย
แต่ใช้วิชาหากินไม่ถูกช่อง ทำให้ต้องตกอยู่ในฐานะ
ที่ลำบากย ากจน เรื่อยมา สู้คนที่ไม่รู้หนังสือเลย
แต่หากินจนร่ำรวยไม่ได้ จึงเป็นที่มาของสุภาษิตสำนวนไทยที่ว่า
ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอด “คนฉลาด..ย่อมไม่อวดวิเศษ
แม้แต่น้อยอ่อนน้อมถ่อมตนเอง ย่อมมีอะไรดีกว่าการอวดเบ่งเป็นแน่”
อ่า นแล้วนั่งยิ้มคนเดียว เพราะนิทานง่ายๆเรื่องนี้สอนให้คิดอะไรได้มากมาย
ขอบคุณที่มา : gotoknow